Bigscreen VR เปิดตัว Bigscreen Beyond เป็นชุดหูฟังเสมือนจริงที่เล็กที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยิ่งใหญ่อาจมาในแพ็คเกจขนาดเล็ก เนื่องจากจอแสดงผลขนาดเล็กมีความละเอียด 5K ที่น่าทึ่ง มากกว่าสองเท่าของพิกเซลของคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Oculus Quest 2 และ HTC Vive แม้จะลดขนาดและน้ำหนักของฮาร์ดแวร์ลงอย่างมากก็ตาม
Darshan Shankar CEO ก่อตั้ง Bigscreen VR ในปี 2014 ในฐานะผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ความเป็นจริงเสมือน ซอฟต์แวร์ชื่อเดียวกันเปิดตัวในปี 2559 และมีผู้ใช้มากกว่า 6 ล้านคนตามเว็บไซต์ของบริษัท อธิบายว่าเป็น “ห้องนั่งเล่นเสมือนจริง” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชมภาพยนตร์ เล่นเกมออนไลน์ ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน และสังสรรค์ในพื้นที่ดิจิทัล
ไม่ใช่แค่บริษัทซอฟต์แวร์อีกต่อไป Bigscreen วางแผนที่จะเปิดตัวชุดหูฟัง VR รุ่นแรกในปีนี้ Bigscreen Beyond มีแผงความละเอียด 2560×2560 สองแผงสำหรับความละเอียดรวม 5120×2560 พิกเซล ทำให้ดีในช่วง 5K นอกจากนี้ยังมีอัตราการรีเฟรชสูงถึง 90Hz และมุมมอง 90° ขณะที่น้ำหนักเพียง 127 กรัม หรือประมาณ 0.28 ปอนด์
คุณสมบัติอื่นๆ ได้แก่ ไมโครโฟนสเตอริโอ พร็อกซิมิตี้เซนเซอร์ และการรองรับ SteamVR อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงความเข้ากันได้กับสถานีฐาน Steam VR คอนโทรลเลอร์ และอุปกรณ์เสริม Beyond มีให้เลือก 15 ขนาด และแอปสแกนใบหน้าของ Bigscreen ยังช่วยให้สามารถประกอบชุดหูฟังแต่ละอันตามขนาดใบหน้าของผู้ใช้ได้
บริษัทยังมีการใส่เลนส์เสริมสำหรับผู้ใช้ VR เพื่อเล่นเกมออนไลน์ ชุดหูฟังใหม่นี้ไม่ได้ราคาถูก เนื่องจาก Beyond ขายปลีกในราคา 999 ดอลลาร์ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,098 ดอลลาร์ หากลูกค้าเลือกแนบไฟล์เสียงระดับไฮเอนด์
แม้ว่าชุดหูฟัง VR ราคาแพงจะได้รับการยกย่องในด้านความสบายและประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องแลกกับการเสียสละบางอย่าง Engadget ชี้ให้เห็นว่าขนาดและน้ำหนักที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากการลบคุณสมบัติด้านคุณภาพชีวิตหลายอย่างที่เป็นมาตรฐานในชุดหูฟังอื่นๆ รวมถึงการไม่มีปุ่มปรับ เป็นสาเหตุที่จำเป็นต้องปรับให้พอดีและเลนส์เสริม นอกจากนี้ Bigscreen Beyond ยังขาดกล้องในตัว ทำให้ต้องใช้สถานีฐาน SteamVR ไฟล์แนบเสียงเสริมยังมาแทนที่หูฟังในตัวระบบขาด
ป้ายราคาของชุดหูฟังใหม่มีราคาถูกกว่าคู่แข่ง เช่น Meta Quest Pro อย่างไรก็ตาม คู่แข่งหลักมอบประสบการณ์แบบครบวงจรที่ Beyond ไม่มี